เฟรนช์ บูลด็อก คือ สุนัขเลี้ยงที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน โดยถูกผสมพันธุ์ขึ้นในประเทศอังกฤษในมีหน้าตาเหมือนสายพันธุ์บูลด็อกขนาดย่อส่วนและได้ติดตามเจ้าของที่เป็นช่างถักลูกไม้ชาวอังกฤษไปยังฝรั่งเศส จนได้รับชื่อเล่นที่เรียกว่า “เฟรนชีย์ (Frenchie)”
สุนัขพันธุ์นี้เป็นสายพันธุ์แท้ที่อาจพบได้จากสถานสงเคราะห์สัตว์หรือศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ แต่หากคุณมีโอกาส แนะนำให้รับมาเลี้ยงทันที!
นอกจากจะเป็นสุนัขเลี้ยงแล้วมันยังเคยถูกใช้เป็นสุนัขจับหนูที่มีฝีมือเก่งกาจ อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน มันได้กลายมาเป็นสัตว์เลี้ยงประจำบ้านรวมทั้งสุนัขสำหรับโชว์ตัว สุนัขสายพันธุ์นี้เป็นมิตรกับผู้คนในเมืองใหญ่รวมถึงเจ้าของใหม่ของมัน
บทความนี้เราได้เตรียมข้อมูลที่ครอบคลุมเกี่ยวกับเฟรนช์ บูลด็อกให้คุณได้ศึกษาและทึ่งกับสุนัขสายพันธุ์ที่ยอดเยี่ยมนี้!
ข้อเท็จจริงที่ #1 เฟรนช์ บูลด็อก มีต้นกำเนิดมาจากอังกฤษ!
สุนัขบูลด็อก ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในอังกฤษช่วงศตวรรษที่สิบเก้า โดยเฉพาะในเมืองนอตติงแฮม ทั้งนี้ เมื่อช่างถักลูกไม้จำนวนมากได้ย้ายถิ่นฐานไปยังฝรั่งเศสในช่วงกลางศตวรรษ1800 พวกเขาได้นำสุนัขบูลด็อก “ขนาดพกพา” สายพันธุ์นี้ไปพร้อมกันด้วย
สุนัขบูลด็อกพันธุ์ “ย่อส่วน” เหล่านี้มีหูตั้งเป็นลักษณะเด่น ได้สร้างความสนใจในกลุ่มสตรีชาวฝรั่งเศสเป็นอย่างมาก ดังนั้น ลูกสุนัขขนาดเล็กจำนวนมากจึงถูกนักค้าสุนัขส่งออกไปยังฝรั่งเศสและมันได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในกรุงปารีส
ทั้งนี้ มันได้รับการตั้งชื่อภาษาฝรั่งเศสว่า บูลด็อก ฟร็องเซ่ (Bouledogue Francais) โดยนักผสมพันธุ์สุนัขฝรั่งเศสได้พยายามสร้างลักษณะเด่นที่แตกต่างจากนักผสมพันธุ์อังกฤษ คือ “หูทรงค้างคาว”
ข้อเท็จจริงที่ #2 สุนัขเฟรนชีย์ส่วนใหญ่ว่ายน้ำไม่เป็น
คุณอยากให้สุนัขเฟรนช์ บูลด็อกของคุณเล่นในสระว่ายน้ำใช่ไหม อย่าได้คิดเด็ดขาด! โดยเฟรนช์ บูลด็อกส่วนใหญ่ว่ายน้ำไม่เป็นเนื่องจากมีรูปร่าง “อ้วนกลม” พวกมันมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงและกระดูกที่แข็งแกร่ง
สุนัขสายพันธุ์นี้มีใบหน้าที่ย่นหรือที่รู้จักในชื่อ ภาวะกระดูกศีรษะแบน (brachycephalic) ทำให้ศรีษะของมันเล็กและกว้าง
ยังมีสาเหตุอื่นอีกมากมายที่บูลด็อกว่ายน้ำไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนักตัวและภาวะศีรษะแบน
พวกมันต้องยกศีรษะให้สูงขึ้นเพื่อให้พ้นน้ำเนื่องจากมันมีจมูกที่สั้น นอกจากนี้มันยังลอยตัวเหนือน้ำได้ยากเพราะลำตัวที่เอียงลง
ยิ่งไปกว่านั้น ลำตัวส่วนบนของเฟรนช์ บูลด็อกยังมีน้ำหนักมากและขาที่เล็กของมันทำให้ว่ายน้ำได้ลำบาก
ความสามารถในการอยู่เหนือน้ำของสุนัขของคุณอาจได้รับผลกระทบจากระดับความชื้นที่สูงและความเหนื่อยล้า
สุนัขสายพันธุ์เสี่ยงต่อการเกิดโรคไขข้ออักเสบ (rheumatism)โรคข้อต่ออักเสบ (arthritis) และภาวะหนาวเย็น ดังนั้น จึงไม่ควรให้มันอยู่ใกล้น้ำ
คุณไม่ควรสับสนระหว่างการว่ายน้ำและการรังแกสุนัข
นอกจากนี้ สุนัขสายพันธุ์อื่นๆ อาทิ Maltese, Dachshunds, Pugs, Corgis, และ Basset Hounds ควรอยู่ห่างจากน้ำเช่นกัน
หากคุณอยากให้สุนัขได้ลงน้ำ จงแน่ใจว่าได้สวมเสื้อชูชีพให้มัน ซึ่งไม่ได้ดูแย่เลย!
ข้อเท็จจริงที่ #3 พวกมันไม่ชอบอากาศร้อนเช่นกัน!
ถึงแม้ว่าสุนัขเฟรนชีย์ชอบการเล่น แต่พวกมันมีความสุขจากการนั่งรอระหว่างที่คุณทำงานหรือนอนบนตักของคุณ
หากคุณเป็นเจ้าของเฟรนชีย์หรือพูดอีกอย่างว่าคุณถูกสุนัขเฟรนชีย์เป็นเจ้าของเข้าให้แล้ว เตรียมตัวของคุณให้พร้อมในการพามันออกไปข้างนอกเพื่อวิ่งเล่นหรือเดินเล่นบนชายหาดในวันที่อากาศสดใสในหน้าร้อน แต่ด้วยใบหน้าที่แบนของมัน เฟรนช์ บูลด็อก จึงทนความร้อนได้ไม่ดี
ทั้งนี้ American Kennel Club (AKC) ได้กล่าวโทษต่อ “โครงสร้างที่หนักบริเวณด้านหน้า” ของเฟรนช์ บูลด็อก ทำให้มันไม่สามารถทำกิจกรรมที่ต้องออกแรงหนักๆได้และเราแนะนำไม่ให้ทิ้งมันไว้ตามลำพัง
สุนัขเฟรนช์ บูลด็อกไวต่อการเกิดภาวะอ่อนเพลียจากความร้อน( heat exhaustion) จึงแนะนำให้เล่นหรือพามันไปเดินเล่นประมาณ 15 นาทีในช่วงค่ำที่อากาศเย็นลงพร้อมออกกำลังอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ ยังเป็นสุนัขที่เหมาะกับการเลี้ยงในอพาร์ทเมนต์เพราะมันไม่ต้องการพื้นที่กว้างขวางหรือห้องจำนวนมาก
ข้อเท็จจริงที่ #4 มันกลัวคำวิจารณ์มาก
ลูกสุนัขเฟรนช์ บูลด็อกอ่อนไหววต่อความรู้สึกเป็นอย่างมาก มันรับไม่ได้กับคำวิจารณ์! หากคุณดุด่า จะทำให้มันเซื่องซึมและน้อยใจ
การสนับสนุนและส่งเสริมในช่วงบวกได้ผลดีกับพวกมันดีกว่า
สุนัขพันธุ์นี้บอบบาง คุณจึงต้องใช้ความระวังเพิ่มขึ้นเมื่อสัมผัสตัวมันเพื่อป้องกันการเสียดสีเส้นประสาท
ต่อไปนี้ คือ คำพูดที่คุณไม่ควรพูดกับเฟรนช์ บูลด็อกของคุณ:
“ไปเล่นกับหมาตัวอื่นเลย”
“ไม่มีขนมให้กินแล้ว!”
“มองหน้าสิเวลาที่ฉันคุยด้วย”
‘มาทำความรู้จักกับแมวของฉันสิ” ‘
“เธอเป็นหมาอ้วนๆแสนน่ารัก”
“เธอจะเป็นหมาฝรั่งเศสจริงๆได้ไหม”
‘ได้เวลาไปวิ่งเหยาะกันแล้ว”
‘หูทรงค้างคาวน่ารักดี”
สุนัขบางตัวไม่ชอบการถูกดุ บางสายพันธุ์อาจไม่สนใจอะไร แต่สำหรับเฟรนช์ บูลด็อก มันจะเก็บไปคิดมากจนน้อยใจและทนไม่ได้แม้แต่สายตาที่ดุ!
ถึงแม้ว่าสุนัขพันธุ์นี้อ่อนไหวต่อความรู้สึกเป็นอย่างมาก สิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจว่ามันต้องการความใส่ใจ พวกมันชอบอยู่กับคนและชอบให้มีคนเคียงข้าง
ข้อเท็จจริงที่ #5 พวกมันมีหูสองทรงด้วยกัน
สุนัขเฟรนช์ บูลด็อกส่วนใหญ่มีจุดเด่น คือ หู “ที่ตั้งชัน”
แต่ก่อน สุนัขเฟรนช์ บูลด็อกเคยมีหูทรงดอกกุลาบซึ่งคล้ายกับสุนัขสายพันธุ์อื่นของอังกฤษที่ตัวใหญ่กว่า
ปัญหาเกิดจากการที่นักผสมพันธุ์สุนัขอังกฤษชอบหูหนึ่งทรงและนักผสมพันธ์อเมริกันชอบหูทรงค้างคาว
หนึ่งในความกังวลที่พบได้บ่อยในกลุ่มผู้เลี้ยงเฟรนช์ บูลด็อก คือ หูของมันจะตั้งชันหรือพับลงแบบหูค้างคาวหรือไม่
ในความเป็นจริงนั้น หูที่ตั้งของสุนัขพันธุ์นี้เป็นสิ่งที่น่าสนใจและทำให้ผู้พบเห็นมีความสุข
เกือบทุกครั้งที่หูของมันเริ่มตั้งขึ้น จะไม่เกิดในเวลาเดียวกัน โดยระหว่างที่ฟันกำลังขึ้น หูทรงค้างคาวของมันจะตั้งขึ้นในรูปแบบที่แตกต่างกัน
ยกตัวอย่าง หูของมันอาจตั้งขึ้นเพียงข้างเดียวและอีกข้างอาจตั้งขึ้นหรือพับลงในอีกวัน
บางครั้งหูอาจตั้งเพียงข้างเดียวเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ก่อนที่อีกข้างจะตั้งขึ้น เมื่อหูตั้งเป็นครั้งแรกจะไม่ตั้งชันแบบเต็มที่แต่จะค่อยๆตั้งขึ้นเหมือนปีกเครื่องบิน
เมื่อฟันสุนัขของคุณขึ้นแล้ว หูของมันจะตั้งขึ้นอย่างเหมาะสม
ข้อเท็จจริงที่ #6 พวกมันเป็นพี่เลี้ยงเด็กที่ยอดเยี่ยม
สุนัขสายพันธุ์นี้เหมาะสำหรับเล่นกับเด็ก! สุนัขเฟรนชีย์ช่วยปกป้องเด็กเล็กๆได้อย่างยอดเยี่ยมและเป็นเพื่อนที่ดีกับพวกเขา!
สุนัขเฟรนชีย์อ่อนโยนกับเด็กๆและเด็กยังชอบเล่นกับมัน
เมื่อทั้งสุนัขและเด็กได้พบกัน พวกเขาจะกลายเป็นเพื่อนคู่หู สุนัขเก่งในการพัฒนาความสัมพันธ์ฉันท์มิตรและเข้าใจความหมายของคำว่ารักอย่างแท้จริง
ต่อไปนี้ คือ คุณลักษณะที่ทำให้สุนัขพันธุ์นี้เป็นพี่เลี้ยงเด็กที่ยอดเยี่ยม:
- พวกมันทำหน้าที่เป็นผู้ปกป้องและคุ้มกันภัย
- พวกมันอุทิศตนและเป็นสหายที่จงรักภักดี
- เป็นสุนัขที่มีชีวิตชีวาและสร้างความบันเทิง
- เป็นสุนัขที่สอนได้ง่ายและค่อนข้างฉลาด
- คุณลักษณะที่ดีที่สุด คือ มีความอดทนและสงบเยือกเย็น
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสุนัขเฟรนชีย์เป็นที่รักและมีความน่ารักในตัว โดยสุนัขพันธุ์นี้ได้รับการผสมพันธุ์ขึ้นมาเพื่อให้เป็นมิตร ถึงแม้ว่ามันจะเรียนรู้กติกาภายในบ้านได้ช้าแต่เข้ากับสุนัขตัวอื่นและสมาชิกในครอบครัวได้อย่างดี
หากคุณไม่ต้องการสุนัขที่ชอบเห่า พันธุ์นี้เหมาะสำหรับบ้านรวมถึงลูกๆของคุณ
คุณจะต้องถูกใจเพราะมันไม่ต้องการทำกิจกรรมมากมายจึงเหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่น้อย เพียงกรงที่ปลอดภัยเพียงพอแล้วสำหรับเฟรนช์ บูลด็อก
ข้อเท็จจริงที่ #7 ต้องจำกัดน้ำหนักตัวของมัน
คุณอ่านถูกต้องแล้ว
สุนัขเฟรนช์ บูลด็อกไม่ควรมีน้ำหนักเกินกว่า 28 ปอนด์ (ประมาณ 14 กิโลกรัม) เพราะหากเกินกว่านี้ มันจะถูกห้ามจากการเข้าร่วมการโชว์ตัวสุนัข ตามข้อกำหนดมาตรฐานของ American Kennel Club (AKC)
สุนัขเฟรนชีย์ชอบกินอาหารและเสี่ยงเป็นโรคอ้วนได้ง่าย สิ่งสำคัญคือการควบคุมพฤติกรรมการกินอาหารของสัตว์เลี้ยงของคุณ
ภารกิจนี้เป็นภารกิจระยะยาวในการควบคุมระดับน้ำหนักเฟรนช์ บูลด็อกของคุณให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
ลูกสุนัขเฟรนช์ บูลด็อกตัวผู้ควรมีน้ำหนักอยู่ที่ระหว่าง 9 ถึง 13 กิโลกรัม (20 ถึง 28 ปอนด์), สำหรับลูกสุนัขตัวเมียควรมีน้ำหนักอยู่ที่ 8 ถึง 12 กิโลกรัม (18 ถึง 26 ปอนด์)
สุนัขทั้งเพศเมียและเพศผู้ที่โตเต็มวัยของสายพันธุ์นี้ควรมีส่วนสูงอยู่ที่ระหว่าง 28 ถึง 30 ซม. (11 ถึง 12 นิ้ว)
น้ำหนักที่เหมาะสมของสุนัขของคุณขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยเฉพาะน้ำหนักตัวร่วมกับกรรมพันธุ์
คุณจะทำอย่างไรหากเฟรนช์ บูลด็อกของคุณมีน้ำหนักเกิน
คุณควรทำความเข้าใจกับข้อบ่งชี้สุขภาพพื้นฐาน ดังต่อไปนี้:
- กล้ามเนื้อไม่แข็งแรง
- ไม่สามารถดูแลความสะอาดด้วยตัวเองได้
- หายใจเหนื่อยหลังจากการออกแรงเพียงเบาๆ
เนื่องจากเฟรนช์ บูลด็อกเป็นสุนัขที่แข็งแรง หากสัตว์เลี้ยงของคุณเริ่มเหนื่อยง่ายหลังจากเล่นไม่นาน อาจได้เวลาลดน้ำหนักให้พวกมันแล้ว
ตรวจซี่โครงสุนัขของคุณเพื่อดูว่าน้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์หรือไม่ หากใช่คุณจะสัมผัสได้ถึงซี่โครงทุกซี่ แต่หากน้ำหนักปกติคุณจะมองไม่เห็นซี่โครง
การที่สุนัขมีน้ำหนักเกินหรือต่ำกว่าเกณฑ์จะนำไปสู่ปัญหาสุขภาพมากมาย
หากเฟรนช์ บูลด็อกของคุณมีน้ำหนักเกินเกณฑ์จะเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพต่างๆ อาทิ โรคหัวใจและเบาหวาน นอกจากนี้ยังมีโอกาสเป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจรวมถึงกระดูกและกล้ามเนื้อได้เช่นกัน
สำหรับสุนัขที่มีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์เสี่ยงต่อการเป็นโรคระบบทางเดินอาหารและปัญหาเกี่ยวกับไต
มีหลายวิธีที่คุณสามารถนำมาใช้เพื่อช่วยลดหรือเพิ่มน้ำหนักให้สุนัขของคุณ หากน้ำหนักน้อย คุณต้องให้อาหารเพิ่มมากขึ้น แต่หากน้ำหนักมากเกินไป คุณควรให้อาหารน้อยลง
นอกจากนี้ คุณยังสามารถลองอาหารประเภทต่างๆเพื่อดูว่าจะช่วยลดหรือเพิ่มน้ำหนักให้สุนัขได้หรือไม่
การออกกำลังกายเป็นประโยชน์ต่อสุนัขที่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์
หากคุณได้ลองทุกวิถีทางแล้วแต่สุนัขของคุณยังมีน้ำหนักมากหรือต่ำกว่าเกณฑ์ คุณควรพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อรับคำแนะนำ
ข้อเท็จจริงที่ #8 พวกมันผายลมเยอะมาก เยอะสุดๆ!
หนึ่งในคุณลักษณะที่โดดเด่นและน่าขบขนของเฟรนช์ บูลด็อก คือ มันเป็นสุนัขที่ผายลมบ่อยมาก
การผายลมที่มีกลิ่นเหม็นเป็นเอกลักษณ์ของเฟรนชีย์ อย่างไรก็ตาม แต่ไม่ได้มีเพียงสายพันธุ์นี้เท่านั้นที่ผายลมเยอะมากเพราะการผายลมอาจเป็นข้อบ่งชี้ปัญหาสุขภาพในสุนัขพันธุ์อื่นเช่นกัน อาทิ ปั๊ก และ บ็อกเซอร์
อะไรที่ทำให้เฟรนช์ บูลด็อกผายลม
เรื่องนี้อธิบายได้จากโครงสร้างทางร่างกายของมัน! การผายลมของเฟรนช์ บูลด็อกเกิดจากกระเพาะอาหารที่บอบบางที่ไม่สามารถย่อยอาหารได้อย่างเหมาะสม
โครงสร้างกะโหลกของสุนัขพันธุ์นี้ยังส่งผลต่อการกินอาหารของมัน ด้วยใบหน้าที่แบนและจมูกสั้นทำให้มันกินอาหารได้อย่างลำบาก
ผลที่ตามมา คือ ลมในท้องที่เกิดจากการกินอาหารที่เร็วเกินไป
นอกจากนี้ การผายลมของเฟรนช์ บูลด็อกอาจเกิดจากปัญหาการย่อยอาหาร รายการอาหารด้านล่างนี้อาจทำให้สุนัขผายลมมากขึ้นได้:
- ธัญพืช- เช่น ข้าวโพดหรือข้าวสาลี
- อาหารที่มีแก๊สมาก – เช่น ถั่วเหลือง หน่อไม้ฝรั่ง ดอกกะหล่ำ กะหล่ำปลีและถั่วต่างๆ เหล่านี้อาจทำให้สุนัขผายลมมากขึ้น
- ผลิตภัณฑ์จากนม – สุนัขเหมือนกับมนุษย์ที่มีอาการแพ้น้ำตาลแลคโตส (lactose intolerant) ดังนั้น นมและชีสอาจทำให้สุนัขท้องอืดได้
- เศษอาหารบนโต๊ะหรืออาหารเหลือ – เวลาที่สุนัขอ้อนขออาหารอาจเป็นสิ่งที่ปฏิเสธได้ยาก อย่างไรก็ตาม การให้อาหารเหลือแก่สุนัขทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหารและกลิ่นของการผายลมไม่น่าอภิรมย์แน่นอน
- อาหารประเภทแป้งที่มากเกินไป – อาหารสุนัขตามท้องตลาดส่วนใหญ่มีคาร์โบไฮเดรตสูง ประกอบด้วยแป้งและน้ำตาลที่อาจทำให้เกิดแก๊สในลำไส้และทำให้ผายลมเยอะ
- อาหารสุนัขราคาถูกและคุณภาพต่ำ– การให้อาหารราคาถูกแก่ลูกสุนัขเฟรนชีย์ของคุณเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่งเพราะมีคุณภาพที่ไม่ดี อย่างไรก็ตาม แม้แต่อาหารราคาแพงยังทำให้สุนัขผายลมได้หากมีส่วนผสมที่ไม่เป็นมิตรกับสุนัข
หากต้องการลดหรือหยุดการผายลม คุณสามารถให้อาหารประเภทเหล่านี้แก่สุนัขของคุณ:
- ขนมสุนัขแบบป้องกันโรคอ้วน
- สมุนไพร
- อาหารสุนัขที่มีเส้นใยสูง
- ขนมสุนัขคุณภาพสูง
ข้อเท็จจริงที่ #9 สุนัขสายพันธุ์นี้ได้รับความนิยมอันดับ 1 ในสหราชอาณาจักรและอันดับ 4 ในสหรัฐอเมริกาและอันดับ 1 ในโลก
จากข้อมูลของ American Kennel Club (AKC) ในสมัยก่อน สุนัขพันธุ์ลาบราดอร์และเยอรมันเชพเพิร์ด ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เมื่อเวลาผ่านไป ความนิยมเปลี่ยนไปเช่นกัน
ปัจจุบัน นักกีฬาที่มีชื่อเสียงและบุคคลในแวดวงสังคมนอกจากจะเลี้ยง (ถึงแม้ว่าเฟรนช์ บูลด็อกไม่ได้เป็นสุนัขที่ชอบเล่นกีฬา) แต่ยังได้ถ่ายวิดีโอและเผยแพร่ด้วยเช่นกัน
สุนัขเฟรนช์ บูลด็อกมีราคาสูงขึ้นจากความนิยมในปัจจุบัน โดยเฟรนชีย์ทุกตัวมีราคาแพงมากไม่ว่าจะเป็นแบบมาตรฐานหรือแบบหายาก
สำหรับสุนัขสีหายากมีราคาตั้งแต่ 3000 ถึง 8000 ดอลลาร์สหรัฐ (99,000 ถึง 264,000 บาท) และเฟรนชีย์ขนาดเล็กมีราคาแพงกว่าขนาดปกติอีกด้วย
ทั้งนี้ ราคาที่แสนแพงของสุนัขพันธุ์นี้เนื่องจากมันไม่สามารถผสมพันธุ์ได้เองและต้องทำผ่านการผสมเทียมเท่านั้น
แต่กระนั้นก็ตาม ยังเป็นสุนัขที่ได้รับความนิยมสูง…
สุนัขพันธุ์นี้ผสมสายพันธุ์ผ่านการผสมเทียมเท่านั้น
โดยปกติ สุนัขเฟรนช์ บูลด็อกจะไม่มีการผสมพันธุ์ ต้องใช้การผสมเทียมและผ่าตัดทำคลอด
โดยมีการผ่าตัดทำคลอดให้ลูกสุนัขมากกว่า 80%
การที่สุนัขพันธุ์นี้ไม่สามารถให้กำเนิดได้ตามธรรมชาติเกิดจากช่วงบั้นท้ายที่เล็กทำให้ตัวผู้ไม่สามารถขึ้นผสมพันธุ์กับตัวเมียได้ ดังนั้น นักผสมพันธุ์สุนัขจึงต้องทำการผสมเทียมให้แก่สุนัขตัวเมียแทน
โดยทั่วไป แม่สุนัขจะสามารถออกลูกขนาดปกติได้สามตัวต่อคอก อย่างไรก็ตาม บางตัวอาจออกลูกได้ถึง 7-8 ตัว ทั้งนี้ เฟรนช์ บูลด็อกอาจมีอาการร้อนผ่าวซึ่งเกิดจากภาวะการทำงานผิดปกติของต่อมไทรอยด์ได้เช่นกัน
ข้อเท็จจริงที่ # 10 เฟรนช์ บูลด็อกมีอายุขัยที่ยืนยาว
อายุขัยโดยเฉลี่ยของเฟรนช์ บูลด็อกอยู่ที่ 10 ถึง 12 ปี อย่างไรก็ตาม เจ้าของหรือนักผสมพันธุ์สุนัขควรใสใจในปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นกับสายพันธุ์นี้ โดยเฟรนช์ บูลด็อกส่วนใหญ่ประสบกับโรคระบบทางเดินหายใจผิดปกติในกลุ่มสุนัขหน้าสั้น หรือ Brachycephalic Obstructive Airway Disease
หากลิ้นของมันนิ่มจนเกินไปจะทำให้อุดกั้นทางเดินหายใจได้ เราจึงมักพบสุนัขพันธุ์นี้หายใจทางปาก นอกจากนี้ ของเฟรนช์ บูลด็อกยังชอบกรนและหายใจเสียงดังจากอาการป่วยนี้ หากสุนัขของคุณหอบบ่อย มีปัญหาในการกิน ไอหรือกรน อาจบ่งชี้ถึงปัญหาสุขภาพที่รุนแรง
นอกจากนี้ ยังมีภาวะรูจมูกตีบแคบ หรือ stenotic nares ที่สร้างความกังวลและอาจปิดกั้นทางเดินหายใจได้ เมื่อสุนัขสายพันธุ์นี้หลับ มันจะกรนเพื่อพยายามหายใจ
อาจพบภาวะตัวร้อนเกิน หรือ hyperthermia [heat stroke] จากการที่มันไม่สามารถหายใจได้อย่างเหมาะสมได้เช่นกัน เจ้าของควรให้ของเฟรนช์ บูลด็อกได้ดื่มน้ำตลอดเวลาและจำกัดเวลาอยู่นอกบ้านท่ามกลางอากาศร้อน ทั้งนี้ ของเฟรนช์ บูลด็อกมักมีอาการแพ้ทางผิวหนังที่สืบทอดจากพ่อแม่ รวมทั้งปัญหาเกี่ยวกับตาอย่างโรคเชอร์รี่ อาย
ข้อเท็จจริงที่ # 11 เฟรนช์ บูลด็อกมีระดับพละกำลังที่ต่ำ
สุนัขเฟรนช์ บูลด็อกไม่ต้องการทำกิจกรรมจำนวนมาก ถึงแม้ว่าจะมีการตั้งกติกาไว้แต่มันเป็นสุนัขที่มีระดับพละกำลังที่ต่ำ อย่างไรก็ตาม มันต้องออกแรงเป็นประจำ เช่น การเดินระยะสั้นๆหรือใช้เวลาไปกับการเล่นที่สวนหลังบ้านเพื่อเป็นการคุมน้ำหนักของมัน
เฟรนช์ บูลด็อกจำนวนมากชอบเล่นและใช้เวลาไปกับการเล่น อย่างไรก็ตาม มันมีพละกำลังไม่มากและไม่ต้องการพื้นที่สวนหลังบ้านขนาดใหญ่หรือออกกำลังที่ใช้แรงเยอะ
ภาวะอ่อนเพลียจากความร้อน (ตามที่ได้กล่าวถึงก่อนหน้านี้) เป็นภัยเสี่ยงต่อสุนัขสายพันธุ์นี้ ดังนั้น จึงไม่ควรให้มันได้ทำกิจกรรมท่ามกลางอากาศที่ร้อน แนะนำให้พาออกไปเดินเล่นในช่วงเช้าหรือค่ำแทน
สิ่งหนึ่งที่คุณควรจำไว้คือ ถึงแม้ว่าสุนัขเฟรนช์ บูลด็อกจะฉลาดและกระตือรือร้นในการเอาใจผู้คนแต่พวกมันรักอิสระระหว่างการฝึกด้วยเช่นกัน ดังนั้น มันอาจดื้อรั้นได้ จึงควรได้รับการฝึกฝนบ่อยครั้ง อย่าเพิ่งยอมแพ้หากในครั้งแรกๆยังไม่ได้ผล ทำให้การฝึกทักษะสนุกเหมือนการเล่นเกมที่สร้างความตื่นเต้นและมีของรางวัลล่อใจเพื่อให้เจ้าเฟรนชีย์สนใจ
ถึงแม้ว่าคุณอยากให้เฟรนช์ บูลด็อกของคุณเข้ามาอยู่ในบ้านเมื่อมันโตเต็มวัยแล้ว การฝึกให้สุนัขเข้ากรงเป็นสิ่งที่จำเป็น ลูกสุนัขไม่ว่าจะมีสายพันธุ์ไหนชอบการสำรวจเมื่อไปอยู่ในที่ไม่คุ้นเคยและอาจกัดเคี้ยวสิ่งของที่เป็นอันตรายได้ สุดท้ายคุณอาจต้องจ่ายค่าซ่อมความเสียหายหรือค่ารักษาพยาบาลราคาแพงให้สุนัขของคุณ ดังนั้น การฝึกเข้ากรงจะช่วยคุณประหยัดเงินรวมทั้งป้องกันสุขภาพของลูกสุนัข
ข้อเท็จจริงที่ # 12 พวกมันต้องการอาหารไม่มาก
ตามข้อมูลของ AKC สุนัขเฟรนช์ บูลด็อกต้องการอาหารเม็ดคุณภาพสูงปริมาณ 1 ถึง 1.5 ถ้วยต่อวันโดยแบ่งออกเป็นสองมื้อด้วยกัน
สำหรับสุนัขเฟรนช์ บูลด็อกที่โตเต็มวัยจะกินอาหารในปริมาณที่คำนวณตามความสูง อายุ ขนาด ระดับการเผาผลาญพลังงานและการทำกิจกรรม
สุนัขเหมือนกับคนที่มีความต้องการอาหารในปริมาณที่แตกต่างกัน โดยสุนัขที่ใช้พละกำลังมากจะต้องการอาหารมากกว่าสุนัขที่ชอบอยู่นิ่งๆ ทั้งนี้ อาหารที่คุณซื้อจะส่งผลเช่นกัน ยิ่งเป็นอาหารที่มีคุณภาพดีเท่าไหร่ สุนัขของคุณจะได้รับสารอาหารที่ดีเพิ่มขึ้นและคุณไม่ต้องบังคับให้กินเช่นกัน
ข้อเท็จจริงที่ # 13 ขนของสุนัขเฟรนชีย์ดูแลได้ง่าย
สุนัขเฟรนช์ บูลด็อกมีขนที่สั้น นิ่มและสวยงาม มีหนังที่หย่อนและย่น อีกทั้งยังบอกบางโดยเฉพาะบริเวณศีรษะและไหล่.
ขนของมันมีทั้งแบบสีน้ำตาลแกมเหลือง ครีมและเฉดสีต่างๆ โดยมีสีขนผสมกันทั้งแบบสีอ่อนและสีเข้ม เช่น ขนลายเสือและแบบผสมสีขาวที่เรียกว่า brindle pied ซึ่งพบได้บ่อยในกลุ่มสุนัขเฟรนช์ บูลด็อก
แนะนำให้หลีกเลี่ยงนักผสมพันธุ์สุนัขที่อ้างว่าสีของสุนัขตัวนั้นหายากและมีมูลค่าสูง เพราะในความเป็นจริงคุณไม่สามารถสั่งซื้อลูกสุนัขที่มีสีหรือเพศแบบเฉพาะเจาะจงได้ หากสุนัขตัวผัวมีขนสีครีมเพียงอย่างเดียวหรือแบบลายเสือ ลองดูตัวเมียที่มีขนสีน้ำตาลแกมเหลืองแทน
เฟรนชีย์เป็นสุนัขที่ดูแลได้ง่ายเพียงแปรงขนให้มันเป็นครั้งคราว โดยมันจะมีรอบการผลัดขน คุณควรเริ่มดูแลขนของมันตั้งแต่ที่มันยังอายุน้อยและสอนให้ลูกสุนัขยืนบนโต๊ะหรือพื้นเพื่อให้การตกแต่งขนทำได้ง่ายขึ้น
ข้อเท็จจริงที่ # 14 ไททานิกมีสุนัขเฟรนช์ บูลด็อกอยู่บนเรือ
มันจะน่าสนใจแค่ไหนที่ได้ทราบว่าสุนัขเฟรนช์ บูลด็อกอยู่บนเรือไททานิกเช่นกัน
ผู้โดยสาร Robert W. Daniel นำลูกสุนัขเฟรนชีย์ขึ้นเรือไปด้วยกัน ซึ่งเป็นสุนัขอายุ 2 ปีที่เป็นแชมป์การประกวดลูกสุนัข โดยนายเดเนียลจ่ายเงินไปกว่า 20,000 ดอลลาร์ตามมูลค่าปัจจุบันในการเป็นเจ้าของเฟรนช์ บูลด็อกตัวนี้
ถึงแม้ว่านายเดเนียลจะรอดชีวิตมาได้และมีชีวิตอยู่จนถึงปี 1940 แต่เจ้าสุนัขไม่ได้โชคดีเช่นนั้น
มีผู้เห็นสุนัขตัวเล็กตัวนี้พยายามว่ายในน้ำที่เย็นเฉียบเพื่อเอาตัวรอด
ข้อเท็จจริงที่ # 15 มันไม่เห่าแต่สื่อสาร!
สุนัขส่วนใหญ่ชอบเห่าซึ่งมันได้รับการออกแบบมาให้เป็นเช่นนั้น ระดับเสียงในการเห่าของสุนัขขึ้นอยู่กับขนาดของมัน ยิ่งสุนัขตัวใหญ่เท่าไหร่ มันยิ่งเห่าเสียงดังขึ้นเท่านั้น
ในทางกลับกัน สุนัขสายพันธุ์เล็กต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมากเมื่อต้องเห่า โดยเฉพาะความถี่ในการเห่าทำให้มันลำบากมาก ดังนั้น สุนัขเฟรนชีย์จึงมักไม่เห่าแต่มันชอบการสื่อสาร อาทิ หาว ร้องเอ๋งและกลั้วคอ ซึ่งเป็นระบบการสื่อสารของเฟรนช์ บูลด็อก
สรุป
สุนัขเฟรนช์ บูลด็อกมีประวัติความเป็นมาที่รุ่งโรจน์ จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมจึงเป็นหนึ่งในสายพันธุ์สุนัขที่ดีและได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก
ถึงแม้ว่าจะมีสุนัขหลายสายพันธุ์ทั่วโลก แต่ด้วยคุณลักษณะและอุปนิสัยที่โดดเด่นของมันทำให้เป็นสุนัขที่ได้รับความนิยม มันเป็นสุนัขที่ร่าเริง น่ารักและพร้อมคุ้มกันภัย
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสุนัขเฟรนชีย์น่าสนใจและน่าทึ่งมาก ข้อมูลข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น
