คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่าทำไมบางคนดูเหมือนมี “มนต์วิเศษ” เมื่อเลี้ยงสุนัขพิทบูล
สุนัขพิทบูลมักถูกเข้าใจว่าเป็นสุนัขที่ดุร้าย แต่ไม่เป็นความจริงเลย พวกมันเป็นสุนัขที่น่ากอดฟัดและมีพฤติกรรมที่ดีได้เหมือนกับสุนัขพันธุ์อื่นหากได้รับการฝึกอย่างเหมาะสม คำถาม คือเราจะสอนลูกสุนัขพิทบูลให้เชื่อฟังได้อย่างไร
การฝึกสุนัขเชิงบวก (Positive reinforcement) คือ วิธีการที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการฝึกลูกสุนัขพิทบูล ด้วยการให้รางวัล ให้ความรักหรือสิ่งอื่นๆที่ทำให้มันมีความสุขเมื่อสุนัขทำได้ดี
ในการเริ่มฝึกลูกสุนัขพิทบูล อันดับแรก คุณต้องเรียนรู้วิธีการตอบสนองต่อสถานการณ์ต่างๆ รวมทั้งว่าทำไมมันจึงมีชื่อเสียงในทางไม่ดี โดยคุณต้องสามารถนำการส่งเสริมเชิงบวกมาใช้กับสุนัขของคุณให้ได้ อ่านบทความนี้ต่อเพื่อศึกษาเพิ่มเติม!
วิธีการเลี้ยงพิทบูล 101
ขั้นตอนที่ 1: การเตรียมความพร้อม
ก่อนที่จะนำลูกสุนัขตัวใหม่เข้าบ้าน ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีคุณได้เตรียมทุกอย่างที่สุนัขต้องการ เตรียมชามสำหรับใส่น้ำและอาหาร ปลอกคอ สายจูงและป้ายชื่อสุนัข อาหารและของเล่นที่เหมาะกับวัย สุนัขพิทบูลเป็นสุนัขที่มีแรงเยอะและลูกสุนัขอาจเล่นกับของใช้ส่วนตัวและของเล่นด้วยความรุนแรง
เมื่อสุนัขพิทบูลของคุณเติบโตขึ้น ลองทุนซื้อปลอกคอและสายรัดรวมทั้งของเล่นที่เหมาะกับสุนัข “ที่มีแรงกัดอันทรงพลัง” หลีกเลี่ยงของเล่นที่เสี่ยงติดคอหรือรูปร่างพิเศษ เมื่อของเล่นฉีกขาด เปลี่ยนใหม่ หากลูกสุนัขพิทบูลของคุณไม่ได้ฝึกการขับถ่ายอย่างถูกต้อง คุณจะต้องเตรียมที่นอนและผ้าห่มผืนนุ่มรวมทั้งอุปกรณ์ทำความสะอาดไว้ด้วย
ก่อนที่ลูกสุนัขพิทบูลจะมาถึง ตรวจความเรียนบร้อยในการจัดเตรียมบ้าน อุปกรณ์ให้อาหารและฝึกทุกคนในบ้านให้พร้อมเพื่อมั่นใจว่าจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน พิทบูลเป็นสุนัขที่ไวต่อความรู้สึกและฉลาด ความไม่ต่อเนื่องอาจทำให้สมาชิกในบ้านหวาดกลัวได้
ขั้นตอนที่ 2: สร้างอำนาจในการปกครองของคุณ
ขั้นตอนแรกคือการสร้างอำนาจในการปกครองของคุณ สุนัขพิทบูลจะเคารพคุณหากคุณได้แสดงให้เห็นว่ามันจะแสดงความสามารถที่ดีที่สุดของมันได้จากคุณ
กระตุ้นให้สุนัขทำบางอย่างให้คุณก่อนที่คุณจะให้รางวัลที่มันชอบ
หนึ่งความกดดันของเจ้าของสุนัขพิทบูล คือ ถึงแม้ว่าจะผ่านการฝึกมาแล้วแต่พิทบูลอาจโตขึ้นมาและดุร้ายแต่เจ้าของได้
ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถบอกได้ แต่การฝึกเชิงบวกโดยใช้คำสั่งพื้นฐานและสร้างความสัมพันธ์ที่มั่นคงจะช่วยลดโอกาสในการเกิดลงได้ อย่างไรก็ตาม สุนัขอาจแว้งกัดเจ้าของได้ด้วยหลายสาเหตุ หนึ่งในสาเหตุที่พบได้บ่อย คือ การฝึกที่ไม่ดี
รับรองให้แน่ใจว่าสุนัขพิทบูลของคุณได้มีโอกาสเข้าถึงผู้คน สัตว์และสถานการณ์ต่างๆระหว่างการฝึก พวกมันจะสามารถรับมือกับสิ่งต่างๆได้ง่ายขึ้นหาได้เรียนรู้ตั้งแต่อายุยังน้อย ส่งเสริมปฏิกิริยาตอบสนองที่เหมาะสมด้วยการให้รางวัลด้วยขนมหรือสิ่งของที่มันชื่นชอบเมื่อมันทำตัวดีกับผู้อื่น
ขั้นตอนที่ 3: ให้ลูกสุนัขพิทบูลของคุณได้อยู่ร่วมกับสังคม
ให้โอกาสลูกสุนัขพิทบูลของคุณได้ใช้เวลาในการสร้างความคุ้นเคยกับสิ่งแวดล้อมใหม่รอบตัวและเข้าร่วมสังคมกับผู้คนหรือสุนัขตัวอื่นตั้งแต่อายุยังน้อย วิธีนี้จะทำให้มันสงบและยังมีความเชื่อมั่นในตัวเอง หากคุณจะใช้กรง Humane Society แนะนำไม่ให้ขังลูกสุนัขพิทบูลไว้ในกรงเป็นเวลานานเกินไปเพราะมันจะเข้าใจว่าเป็นการจองจำ ลองศึกษาวิธีการใช้กรงอย่างมีเมตตาและได้ผล พามันออกจากกรงเป็นระยะและใช้กรงเมื่อลูกสุนัขฝึกการขับถ่ายจนทำได้เรียบร้อยแล้ว
ดังนั้น การฝึกให้สุนัขได้อยู่ร่วมกับสังคมตั้งแต่ยังเป็นลูกสุนัขพิทบูลเป็นสิ่งที่คุณควรให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก โดยสิ่งสำคัญคือการที่ลูกสุนัขพิทบูลของคุณรู้สึกผ่อนคลายเมื่ออยู่ท่ามกลางผู้คนและสถานการณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เด็กเล็ก ผู้ใหญ่หรือสัตว์ตัวอื่นๆ ให้ลูกสุนัขของคุณได้สร้างความคุ้นเคยในการรับมือกับสภาพแวดล้อม รักษาทัศนคติที่ร่าเริงไว้ให้เวลาลูกสุนัขได้ปรับตัว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการฝึกให้อยู่ร่วมกับสังคมตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นลูกสุนัข
ขั้นตอนที่ 4: ใช้ประโยชน์จากการฝึกสุนัขเชิงบวก
คุณต้องแน่ใจว่าใช้การฝึกสุนัขเชิงบวกในการชื่นชมสุนัขเมื่อทำได้ดีตามที่ฝึก พกพาขนมสุนัขติดตัวไปด้วยและมอบให้สุนัขของคุณด้วยความรักเมื่อทำได้ดี
วิธีนี้จะช่วยให้คุณสามารถควบคุมสุนัขของคุณได้และมันจะรักคุณมากยิ่งขึ้นเพราะได้เรียนรู้ว่ามันจะได้สิ่งที่ต้องการจากคุณหากปฏิบัติตามกติกา
ขนมและความใส่ใจเป็นรางวัลสองอย่างที่สุนัขของคุณชื่นชอบ หากคุณรับมือกับพฤติกรรมของสุนัขได้ยากในบางครั้ง ลองออกไปนอกห้องก่อนที่คุณจะทำอะไรลงไปและเสียใจในภายหลัง
ขั้นตอนที่ 5: สร้างสายสัมพันธ์กับลูกสุนัขพิทบูลด้วยการฝึก
พิทบูลได้รับการผสมพันธุ์ขึ้นมาให้เป็นสุนัขต่อสู้โดยเฉพาะสายพันธุ์พิทบูล เทอร์เรียร์ ซึ่งอธิบายได้ดีว่าทำไมมันจึงมีภาพลักษณ์ที่แย่เช่นนี้ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นสุนัขที่ฝึกได้ยากกว่าสุนัขพันธุ์อื่นๆ แต่มันอาจเป็นสุนัขเลี้ยงที่ยอดเยี่ยมที่ชอบเอาใจเจ้าของ
หากคุณสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับสุนัขและสอนมันอย่างถูกต้องจะทำให้มันเกิดความรักต่อคุณ สิ่งหนึ่งที่คุณควรจำไว้ คือ มันอาจเกิดพฤติกรรมไม่ยอมใครและดุร้ายได้ในบางครั้ง
ดังนั้น คุณควรสร้างพฤติกรรมที่ดีด้วยความรัก ความเมตตาและความไว้วางใจ การแสดงความดุร้ายต่อเจ้าของอาจนำไปสู่พฤติกรรมที่ก้าวร้าวของสุนัข
คุณควรเริ่มการฝึกลูกสุนัขเมื่ออายุยังน้อย หากคุณมีความอดทนมากพอ คุณสามารถสอนสุนัขพิทบูลที่โตขึ้นได้เช่นกัน จากประวัติการต่อสู้มายาวนาน มันอาจสังเกตการตอบสนองเชิงบวกโดยการแสดงความรักและความใส่ใจ ห้ามตะโกน กรีดร้องหรือตีสุนัขจะช่วยให้การฝึกได้ผลอย่างดี
ขั้นตอนที่ 6: กระตุ้นให้พิทบูลของคุณมีพละกำลังและความกระตือรือร้นตลอดเวลา
ในการรักษาร่างกายที่แข็งแรงของลูกสุนัขที่ชอบทำกิจกรรมต่างๆไว้เสมอรวมทั้งช่วยให้มันได้ปล่อยพลังเพื่อเลี่ยงการเกิดพฤติกรรมที่ไม่ดี คุณควรให้มันได้ออกกำลังอย่างน้อยวันละหนึ่งถึงสองครั้ง คุณควรฝึกสุนัขกับสายจูงด้วยเช่นกัน วิธีนี้จะช่วยให้คุณสามารถควบคุมสุนัขในพื้นที่สาธารณะได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่เจอสุนัขตัวอื่น สอนให้สุนัขเดินข้างคุณแทนการเดินนำหน้าหรือตามหลังคุณ
สุนัขบางตัวอาจฝึกกับสายจูงหรือการฝึกเฉพาะทางบางอย่างได้ยากลำบาก ดังนั้น คุณควรศึกษาหาวิธีที่ดีที่สุดสำหรับสุนัขของคุณ อาจหาคำแนะนำ โทรหาสัตวแพทย์ นักฝึกสุนัขหรือ ASPCA สาขาท้องถิ่น รวมทั้ง Humane Society กลุ่มช่วยเหลือสุนัขพิทบูล
มอบภารกิจให้สุนัขของคุณได้ทำจนสำเร็จ สุนัขที่เบื่อหน่ายจะเริ่มสร้างความปั่นป่วน ไม่ใช่เพราะมันเป็นสุนัขไม่ดีแต่เพราะมันเบื่อและไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี! สุนัขพิทบูลต้องการการกระตุ้นทั้งทางร่างกายและจิตใจเพื่อมีความสุข
เล่นโยนลูกบอล ชักเย่อหรือโยนจานร่อนกับลูกสุนัขในแต่ละวันและให้ของเล่นที่น่าตื่นเต้นให้มันได้กัดเล่นหรือ “ค้นหา” หากคุณไม่สามารถเล่นกับมันได้โดยตรง เช่น ตุ๊กตายัดนุ่นพร้อมถั่วหรือขนมอื่นๆ
ขั้นตอนที่ 7: ห้ามตีลูกสุนัขพิทบูลโดยเด็ดขาด!
สุนัขต้องไม่ถูกตีเพราะจะยิ่งเป็นการฝึกให้มันมีปฏิกิริยาต่อต้านมากยิ่งขึ้นและมันจะกลัวคุณแทนที่จะรัก โดยสุนัขควรตระหนักว่าคุณเป็นผู้ที่มีอิทธิพลในชีวิตของมันแต่มันไม่ควรหวาดกลัวคุณ เพราะจะทำให้ความสัมพันธ์ขาดสะบั้น ขาดความไว้เนื้อเชื่อใจคุณและสุดท้ายจะมีพฤติกรรมที่ดุร้าย
การฝึกสุนัขเชิงบวกและเชิงลบไม่ได้เป็นสิ่งที่ตายตัวตามที่คุณอาจคิด เมื่อสุนัขของคุณทำสิ่งใดได้ดี คุณควรให้รางวัล เช่น อาหาร เวลาในการเล่นด้วย ความใส่ใจ เป็นต้น
เมื่อสุนัขของคุณทำตัวไม่ดี การฝึกเชิงลบ คือ การเอาบางสิ่งบางอย่างไปจากมัน
ทั้งนี้ การตีหรือการตะโกนอาจถือว่าเป็นการฝึกอย่างหนึ่ง อย่างไรก็ตาม คุณควรหลีกเลี่ยงการทำโทษให้น้อยที่สุด
ขั้นตอนที่ 8: การฝึกกติกาภายในบ้าน
เราจะละเว้นหัวข้อการฝึกกติกาภายในบ้านไม่ได้เลยเมื่อพูดคุยเกี่ยวกับวิธีการเลี้ยงลูกสุนัขพิทบูล การฝึกกติกาภายในบ้านให้ลูกสุนัขจะเป็นสิ่งที่ช่วยชีวิตคุณได้มาก ภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ คุณสามารถฝึกให้ลูกสุนัขออกไปปัสสาวะข้างนอกด้วยความอดทน ให้เวลาและฝึกเชิงบวก (ตามที่เราได้กล่าวถึงแล้วข้างต้น)
สิ่งที่คุณควรทราบไว้ คือ การฝึกกติกาภายในบ้านไม่ได้หมายความว่าคุณสามารถทิ้งสุนัขให้อยู่ตามลำพังได้ทั้งวัน เพราะในความเป็นจริง กระเพาะปัสสาวะของลูกสุนัขอายุสองเดือนสามารถกลั้นปัสสาวะได้ประมาณสองชั่วโมงเท่านั้นซึ่งเป็นสิ่งที่เจ้าของสุนัขพิทบูลทุกคนควรทราบไว้
ขั้นตอนที่ 9: ฝึกเวลากินอาหารให้พิทบูลของคุณ
ระบบย่อยอาหารของลูกสุนัขอายุหลายสัปดาห์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงแล้ว ซึ่งหมายความว่าสุนัขต้องขับถ่ายภายในเวลาห้าถึงสามสิบนาทีหลังจากที่กินอาหารหรือดื่มน้ำ จับตาดูลูกสุนัขของคุณเมื่อคุณให้อาหารเป็นครั้งแรก
ทันทีที่สุนัขต้องพักเพื่อขับถ่าย พามันออกไปข้างนอก จดบันทึกว่าสุนัขใช้เวลาในการกินอาหารและขับถ่ายนานเท่าไหร่ วิธีนี้จะช่วยให้คุณมีไอเดียว่าสุนัขต้องการขับถ่ายเมื่อไหร่ในอนาคต
หนึ่งในพฤติกรรมก้าวร้าวที่พบได้ในพิทบูล (รวมทั้งลูกสุนัขพิทบูล) คือ การหวงอาหารและข้าวของ
เมื่อเรียนรู้วิธีการเลี้ยงลูกสุนัขพิทบูลอย่างเหมาะสม คุณควรพูดคุยเกี่ยวกับพฤติกรรมดุร้ายเมื่อกินอาหารและห่วงข้าวของ.
ดังนั้น คุณควรสอนลูกสุนัขให้กินอาหารอย่างปลอดภัยตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งจะทำให้คุณสามารถหยิบอาหารของมันออกมาได้โดยที่สุนัขไม่แสดงอาการดุร้ายและรอคำสั่งก่อนกินอาหาร
ดังนั้น คุณจะแก้ไขพฤติกรรมนี้อย่างไร
เมื่อสุนัขพิทบูลเกิดพฤติกรรมก้าวร้าวเมื่อกินอาหาร คุณควรวางชามอาหารของลูกสุนัขตั้งแต่ให้อาหารครั้งแรกและใช้มือจับชามไว้ระหว่างที่สุนัขกินอาหาร โดยชามอาหารที่อยู่บนพื้นสามารถหยิบขึ้นและเปลี่ยนได้
พฤติกรรมดุร้ายเมื่อกินอาหารของสุนัขอาจเกิดได้กับทุกคนที่พยายามจะแย่งอาหารหรือเข้าใกล้มันมากเกินไป จะเป็นการง่ายกว่าหากคุณเริ่มด้วยการฝึกให้ลูกสุนัขยังเล็กและยังทำอันตรายร้ายแรงไม่ได้ หากมันขู่คำรามหรืองับคุณเมื่อนำอาหารออก ให้คุณเอาอาหารออกไปและวางคืนที่เดิมเมื่อสุนัขผ่อนคลายลง
ทำตามเช่นนี้จนกว่าสุนัขจะหยุดอาการหงุดหงิด ชื่นชมอย่างจริงใจเมื่อสุนัขให้คุณหยิบชามอาหารโดยไม่งับหรือขู่คำรามเป็นครั้งแรก
ขั้นตอนที่ 10: อันดับแรก ฝึกการใช้คำสั่งพื้นฐาน
แนะนำให้คุณฝึกสุนัขของคุณ “นั่งลง” และ “อยู่กับที่” เพื่อนำไปสู่พฤติกรรมที่ดี จะเป็นการง่ายขึ้นในการทำให้สุนัขเข้าใจคำสั่งอื่นๆหากมันเข้าใจสองคำสั่งพื้นฐานนี้แล้ว เริ่มด้วยการนั่งคุกเข่าหน้าสุนัขและถือจานอาหารไว้ในมือ จากนั้นบอกให้สุนัขนั่งลงและอยู่กับที่ระหว่างที่เลื่อนจานอาหารออกไปจากตัวของมัน
ใช้คำสั่ง อยู่กับที่ ต่อเนื่องระหว่างที่สุนัขอยู่ในท่านี้ ค่อยวางจานอาหารลง หากสุนัขเคลื่อนไหวออกจากตำแหน่งที่นั่งอยู่กับที่ ใช้คำสั่งต่อจนกว่ามันจะเรียนรู้การนั่งอยู่กับที่ระหว่างที่จานอาหารอยู่บนพื้นและนำมือของคุณออก
วิธีนี้จะง่ายขึ้นหากคุณใช้คำที่บอกเวลาอาหาร เช่น “เวลาอาหารเย็น” เหมือนกับที่เจ้าของบางรายนิยม การฝึกเช่นนี้เป็นสิ่งที่สำคัญต่อทั้งลูกสุนัขและพิทบูลที่โตเต็มวัยแล้ว
ขั้นตอนที่ 11: ฝึกการปฏิบัติตามคำสั่ง
เมื่อลูกสุนัขอายุครบแปดสัปดาห์ มันพร้อมแล้วสำหรับการฝึกปฏิบัติตามคำสั่ง
ฝึกคำสั่งพื้นฐาน อาทิ นั่ง อยู่กับที่ มานี่และนั่งลง จะช่วยให้คุณสามารถพัฒนาคุณสมบัติต่างๆเพื่อสร้างนิสัยที่เชื่อฟังให้แก่สุนัขพิทบูล การฝึกขั้นสูง อาทิ การฝึกความคล่องตัวของสุนัขควรรอจนสุนัขอายุหกเดือนขึ้นไป
ลูกสุนัขมีพละกำลังเหลือล้นในการเล่นสนุก ดังนั้น สิ่งสำคัญคือการฝึกอย่างกระชับ โดยจำกัดเวลาในช่วงเริ่มต้นของการฝึกอยู่ที่ 2-5 นาที
ตามที่ได้กล่าวถึงไปแล้วก่อนหน้านี้ วิธีการที่ดีที่สุดในการฝึกสุนัขเหล่านี้คือ การฝึกสุนัขเชิงบวก (positive reinforcement) กล่าวคำชื่นชมเมื่อทำได้ดี แก้ไขหากยังทำไม่ถูกต้องและลองอีกครั้ง สุนัขจะเรียนรู้เพราะอยากเรียนรู้จริงๆ
การฝึกสุนัขจะเป็นประสบการณ์ที่สุนัขสำหรับทั้งตัวคุณและลูกสุนัขพิทบูล แทนการเรียนด้วยความกลัวจากสิ่งที่ทำไม่ถูกต้องและสุดท้ายจะไม่ได้ผล
ขั้นตอนที่ 12: สุดท้าย อย่าลืมพักบ้าง
เมื่อสุนัขของคุณหมดความอดทนที่จะเชื่อฟัง อย่าลืมพักสักครู่ เพราะบางทีสุนัขอาจง่วงและคุณอาจเหนื่อยล้าเช่นกัน จะเป็นการดีกว่าในการมีสมาธิจดจ่อเมื่อทั้งคู่ตื่นตัว
แทนการฝึกเป็นเวลาหลายชั่วโมง ลองแบ่งออกเป็นช่วงสั้นๆ โดยสุนัขไม่ได้มีสมาธิในการจดจ่อสิ่งใดเป็นเวลานานและจะหมดความอดทนหากคุณให้มันต้องรอ ดังนั้นอย่าให้สุนัขต้องรอนาน
การฝึกจะใช้เวลาประมาณสิบห้านาทีหากคุณทั้งคู่ได้พักเพียงพอและรู้สึกสบาย คุณอาจฝึกมากกว่าหนึ่งครั้งต่อวันหากทั้งคุณและสุนัขพร้อม
การฝึกที่ใช้เวลานานเกินไปหรือยากเกินไปจะทำให้ทั้งคุณและสุนัขหงุดหงิดได้ ลองสร้างบรรยากาศให้สนุก คุณควรเข้าใจว่าการสอนสุนัขต้องใช้เวลาและไม่อาจเปลี่ยนพฤติกรรมของสุนัขได้ชั่วข้ามคืน แต่คุณจะสามารถฝึกวินัยให้สุนัขได้ด้วยการสอนอย่างเหมาะสมและแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่ดีหากเกิดขึ้น