ลูกสุนัขเป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่น่ารักที่สุดในโลก หากคุณกำลังอ่านบทความอยู่ตอนนี้ คุณอาจกำลังคิดจะรับมาเลี้ยงสักตัว เราไม่โทษคุณเพราะลูกสุนัขจะมอบความรักและพลังบวกมากมายให้แก่ชีวิตของคุณ! มีเหตุผลมากมายว่าทำไมการรับลูกสุนัขมาเลี้ยงจึงเป็นความคิดที่ดีเพราะมันเป็นสัตว์ที่ซื่อสัตย์ ให้ความรักและช่วยลดความเครียด อีกทั้งยังทำให้คุณกระตือรือร้นตลอดเวลา คุณทำได้เกือบทุกอย่างร่วมกับลูกสุนัขของคุณและมันจะไม่มีวันทิ้งคุณไปไหน เพราะมันคือเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์
อย่างไรก็ตาม ยังมีสิ่งอื่นๆเกี่ยวกับลูกสุนัขนอกจากอุปนิสัยที่มีเสน่ห์และมิตรภาพ ลูกสุนัขไม่ใช่ของเล่นที่คุณเพียงเล่นด้วยและปล่อยทิ้งไว้เมื่อเบื่อ มันมีความต้องการเช่นเดียวกับมนุษย์ การเลี้ยงสัตว์เป็นความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่เพราะมันเป็นสิ่งมีชีวิต มันต้องการการเอาใจใส่ อาหารที่ดีต่อสุขภาพ เวลาเล่นที่มีคุณภาพและสิ่งที่สำคัญที่สุดคือรับการฉีดวัคซีน บางคนอาจต่อต้านการฉีดวัคซีน แต่การพาลูกสุนัขของคุณไปพบสัตวแพทย์เพื่อฉีดวัคซีนเป็นสิ่งที่สำคัญ
ทำไมการฉีดวัคซีนให้ลูกสุนัขจึงเป็นเรื่องสำคัญ
การพาลูกสุนัขไปฉีดวัคซีนเป็นภารกิจที่สำคัญของคุณ จากข้อมูลการวิจัยได้แสดงให้เห็นว่าวัคซีนต่างๆได้รับการคิดค้นขึ้นมาเพื่อเตรียมความพร้อมระบบภูมิคุ้มกันให้สามารถต่อสู้กับการติดเชื้อและโรคต่างๆที่อาจเกิดในอนาคตได้ วัคซีนจะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันที่สร้างแอนติบอดี้หรือภูมิคุ้มกันโรคอีกทั้งยังช่วยทำลายเชื้อโรคที่อาจทำลายระบบภายในร่างกายของลูกสุนัขได้ อาจมีทฤษฎีอื่นๆที่แย้งข้อมูลดังกล่าวนี้ อย่างไรก็ตาม การวิจัยได้พิสูจน์แล้วว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพสูงทั้งต่อสุนัขและมนุษย์ ช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของโรคและลดอัตราการเสียชีวิตในกลุ่มสัตว์เลี้ยงและสัตว์ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน
อาจมีคนจำนวนหนึ่งไม่เห็นด้วยกับหัวข้อนี้ แต่การฉีดวัคซีนจะช่วยป้องกันลูกสุนัขของคุณจากโรคติดต่อได้อย่างแท้จริง ยิ่งไปกว่านั้น วัคซีนยังช่วยป้องกันโรคที่อาจติดต่อจากสัตว์ไปสู่คนและช่วยคุณประหยัดค่าใช้จ่ายในการพาสัตว์ไปพบสัตวแพทย์ ทั้งนี้ นอกจากวัคซีนลูกสุนัขจะช่วยป้องกันสัตว์เลี้ยงของคุณแล้ว ครอบครัวของคุณและคนอื่นๆจะได้รับการป้องกันเช่นกัน
จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีการศึกษาที่ได้รับการพิสูจน์แล้วที่แสดงให้เห็นว่าวัคซีนมีความเสี่ยงต่อสุขภาพของสัตว์เลี้ยง โดยวัคซีนจะช่วยป้องกันสัตว์เลี้ยงของคุณจากปัญหาสุขภาพที่พบได้ทั่วไปรวมทั้งโรคร้ายแรง สัตวแพทย์แนะนำให้เจ้าของพาสัตว์เลี้ยงไปพบสัตวแพทย์และตรวจร่างกายโดยเร็วที่สุด นอกจากจะช่วยให้วินิจฉัยภาวะสุขภาพในปัจจุบันของลูกสุนัขได้แล้ว ยังสามารถให้วัคซีนที่จำเป็นก่อนภาสุนัขของคุณกลับบ้าน ทั้งนี้ มีวัคซีนสำหรับลูกสุนัขหลายประเภท วัคซีนบางตัวอาจมีราคาถูกและบางตัวอาจมีราคาแพง ขอให้คุณคิดว่าเป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพของลูกสุนัข นอกจากคุณจะประหยัดค่ารักษาเมื่อเกิดโรคได้แล้วยังเป็นการช่วยป้องกันลูกสุนัขของคุณจากอันตราย อย่าได้กังวลใจไปเพราะจะเป็นการช่วยลูกสุนัขของคุณในระยะยาว ตอนนี้ คุณอาจกำลังสงสัยว่าลูกสุนัขของคุณต้องรับวัคซีนอะไรบ้าง ทางออกที่ดีที่สุดคือการสอบถามสัตวแพทย์ อย่างไรก็ตาม บทความนี้ได้รวบรวมวัคซีนประเภทต่างๆที่สำคัญต่อเจ้าสี่ขาของคุณ
วัคซีนประเภทต่างๆ
คุณอาจเกิดคำถามมากมายเกี่ยวกับวัคซีนสำหรับลูกสุนัข เช่น เมื่อไหร่ที่ลูกสุนัขควรรับวัคซีนเข็มแรก มีวัคซีนอะไรบ้าง วัคซีนช่วยป้องกันอะไรบ้าง เป็นต้น คุณโชคดีที่อ่านบทความนี้ เพราะเราได้รวบรวมคำตอบต่างๆไว้ให้คุณแล้ว โดยทั่วไป ลูกสุนัขควรได้รับวัคซีนเข็มแรกเมื่ออายุครบ 6 ถึง 8 สัปดาห์ ก่อนที่คุณจะซื้อหรือรับลูกสุนัขมาเลี้ยง คุณควรสอบถามนักเพาะพันธุ์สุนัขหรือหน่วยงานสัตว์ในพื้นที่ของคุณเกี่ยวกับข้อมูลทางการแพทย์ของลูกสุนัข ซึ่งชีวิตของสุนัขเริ่มต้นตั้งแต่ลืมตาดูโลกแต่หากคุณต้องการให้มันมีอายุที่ยืนยาวและมีความสุข คุณควรศึกษาเกี่ยวกับวัคซีนต่างๆ ต่อไปนี้คือกำหนดการฉีดวัคซีนสำหรับลูกสุนัขของคุณ:
อายุ 6-8 สัปดาห์
ก่อนพาลูกสุนัขของคุณไปพบสัตวแพทย์ แน่ใจว่าคุณได้สอบถามข้อมูลทางการแพทย์จากนักเพาะพันธุ์สุนัขหรือหน่วยงานสัตว์ในพื้นที่ของคุณ โดยข้อมูลนี้จะช่วยให้สัตวแพทย์ทราบว่าควรให้วัคซีนอะไรแก่ลูกสุนัขบ้าง โดยทั่วไปแล้วเมื่อคุณรับลูกสุนัขมาเลี้ยง นักเพาะพันธุ์จะฉีดวัคซีนไว้ให้แล้ว แต่ควรถามจะเป็นการดีที่สุด หากลูกสุนัขได้รับวัคซีนพื้นฐานไปแล้ว สัตวแพทย์อาจให้วัคซีนสำหรับเพิ่มภูมิคุ้มกัน
- วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อ หรือ Parvo (DA2P)
วัคซีนตัวนี้เป็นวัคซีนหลักที่ช่วยป้องกันลูกสุนัขของคุณจากโรคติดเชื้อต่างๆที่ส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ ระบบย่อยอาหารและระบบประสาทและ Parvo เป็นโรคติดเชื้อที่ติดต่อได้หลายทางโดยเฉพาะทางลำไส้ หากสุนัขของคุณไม่ได้รับวัคซีนตัวนี้ อาจทำให้เกิดอาการไม่อยากอาหร น้ำหนักลด ท้องร่วงและอาเจียน
- วัคซีนไอกรน
วัคซีนชนิดนี้รู้จักทั่วไปในชื่อ “Kennel Cough” ซึ่งเป็นวัคซีนทางเลือกสำหรับลูกสุนัข เป็นวัคซีนที่ให้ทางปาก พ่นผ่านทางจมูกหรือแบบฉีด หากลูกสุนัขของคุณต้องเจอกับสุนัขตัวอื่น คุณควรให้ฉีดวัคซีนตัวนี้ซึ่งสามารถรับได้จากสถานสงเคราะห์สุนัข ร้านขายสัตว์เลี้ยง เป็นต้น หากลูกสุนัขของคุณไม่ได้รับวัคซีนตัวนี้จะทำให้อวัยวะอักเสบและติดเชื้อได้
- วัคซีนไวรัสไข้หวัดใหญ่สุนัข
วัคซีนชนิดนี้รู้จักทั่วไปในชื่อ “ไข้หวัดใหญ่สุนัข (Dog Flu)” ซึ่งเป็นวัคซีนทางเลือกในการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สุนัขซึ่งมีหลายแบบ คุณควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าสุนัขของคุณได้รับวัคซีนเมื่ออายุครบ 6 ถึง 8 สัปดาห์ หรือ 9 ถึง 12 สัปดาห์ จากนั้นจะมีการฉีดเข็มเพิ่มภูมิคุ้มกันหลังจากฉีดเข็มแรก 2-4 สัปดาห์ ทั้งนี้ ไข้หวัดใหญ่สุนัขพบได้ทั่วไปในลูกสุนัข วัคซีนตัวนี้จะช่วยป้องกันความเสี่ยงจากการติดโรค
อายุ 9-12 สัปดาห์
โดยปกติแล้ว เจ้าของสัตว์เลี้ยงส่วนใหญ่จะได้รับลูกสุนัขที่ช่วงอายุ 9 ถึง 12 สัปดาห์ ซึ่งลูกสุนัขอาจได้รับวัคซีนเข็มแรกตั้งแต่ช่วง 6 ถึง 8 สัปดาห์เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม ในช่วงอายุนี้ลูกสุนัขของคุณต้องการวัคซีนต่อไปนี้เช่นกัน:
- วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อ หรือ Parvo (DA2P)
วัคซีนตัวนี้เป็นวัคซีนหลักที่ช่วยป้องกันลูกสุนัขของคุณจากโรคติดเชื้อต่างๆที่ส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ ระบบย่อยอาหารและระบบประสาทและ Parvo เป็นโรคติดเชื้อที่ติดต่อได้หลายทางโดยเฉพาะทางลำไส้ หากสุนัขของคุณไม่ได้รับวัคซีนตัวนี้ อาจทำให้เกิดอาการไม่อยากอาหร น้ำหนักลด ท้องร่วงและอาเจียน
- วัคซีนไอกรน
วัคซีนชนิดนี้รู้จักทั่วไปในชื่อ “Kennel Cough” ซึ่งเป็นวัคซีนทางเลือกสำหรับลูกสุนัข เป็นวัคซีนที่ให้ทางปาก พ่นผ่านทางจมูกหรือแบบฉีด หากลูกสุนัขของคุณต้องเจอกับสุนัขตัวอื่น คุณควรให้ฉีดวัคซีนตัวนี้ซึ่งสามารถรับได้จากสถานสงเคราะห์สุนัข ร้านขายสัตว์เลี้ยง เป็นต้น หากลูกสุนัขของคุณไม่ได้รับวัคซีนตัวนี้จะทำให้อวัยวะอักเสบและติดเชื้อได้
- วัคซีนไวรัสไข้หวัดใหญ่สุนัข
วัคซีนชนิดนี้รู้จักทั่วไปในชื่อ ไข้หวัดใหญ่สุนัข (Dog Flu)” ซึ่งเป็นวัคซีนทางเลือกในการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สุนัขซึ่งมีหลายแบบ คุณควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าสุนัขของคุณได้รับวัคซีนเมื่ออายุครบ 6 ถึง 8 สัปดาห์ หรือ 9 ถึง 12 สัปดาห์ จากนั้นจะมีการฉีดเข็มเพิ่มภูมิคุ้มกันหลังจากฉีดเข็มแรก 2-4 สัปดาห์ ทั้งนี้ ไข้หวัดใหญ่สุนัขพบได้ทั่วไปในลูกสุนัข วัคซีนตัวนี้จะช่วยป้องกันความเสี่ยงจากการติดโรค
อายุ 12 ถึง 16 สัปดาห์
เมื่อถึงช่วงนี้ ลูกสุนัขของคุณจะได้รับวัคซีนเข็มแรกเรียบร้อยแล้ว ระบบภูมิคุ้มกันจะแข็งแรงขึ้นแต่ขอให้คุณทราบไว้ว่าลูกสุนัขควรได้รับวัคซีนเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ดียิ่งขึ้นจากวัคซีนที่ได้กล่าวถึงไปแล้วข้างต้น อย่างไรก็ตาม สุนัขควรได้รับวัคซีนต่อไปนี้เพิ่มเช่นกัน:
- วัคซีนไลม์
วัคซีนตัวนี้เป็นวัคซีนทางเลือกที่ควรฉีดอย่างน้อยสองครั้งในรอบ 1 ปี โดยจะช่วยป้องกันสุนัขจากการติดโรคไลม์จากกวางหรือสัตว์ที่เป็นโรคแบล็คเลค (blacklegged) ที่อยู่ในป่าหรือตามทุ่งหญ้า ลูกสุนัขที่ไม่ได้รับวัคซีนตัวนี้จะมีอาการปวดตามข้อต่อและทำให้มันเซื่องซึมได้
- วัคซีนฉี่หนู
วัคซีนทางเลือกอีกตัวที่ควรฉีดให้สุนัขของคุณอย่างน้อยสองครั้งตลอดอายุขัย คือ วัคซีนฉี่หนู ซึ่งช่วยป้องกันสุนัขของคุณจากโรคปอดอักเสบที่ทำให้หายใจลำบาก หากลูกสุนัขไม่ได้ได้รับวัคซีนฉี่หนู อาจทำให้มันตายได้เมื่อติดโรคฉี่หนูอีกทั้งยังส่งผลกระทบร้ายแรงต่อทั้งตัวสุนัขเองคุณในฐานะเจ้าของ
- วัคซีนพิษสุนัขบ้า
วัคซีนพิษสุนัขบ้าเป็นวัคซีนหลักที่ควรฉีดให้แก่ลูกสุนัขที่มีอายุระหว่าง 12-13 สัปดาห์ ตามที่กฎหมายกำหนด ลูกสุนัขอายุ 13 สัปดาห์ขึ้นไปต้องรับวัคซีนตัวนี้ซึ่งจะช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันตอบสนองต่อไวรัสพิษสุนัขบ้าได้เร็วยิ่งขึ้นและจะสามารถฆ่าไวรัสได้ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม สุนัขยังต้องรับวัคซีนเพิ่มภูมิคุ้มกันเพื่อกำจัดไวรัสให้หมด หากลูกสุนัขของคุณไม่ได้รับวัคซีนตัวนี้ นอกจากจะทำให้มันตกอยู่ในอันตรายแล้วและอาจเสี่ยงต่อสุขภาพของคนเช่นกัน
กำหนดการรับวัคซีนของลูกสุนัข
- การรับวัคซีนครั้งแรก: อายุ 6 ถึง 8 สัปดาห์
- การรับวัคซีนครั้งที่สอง: 9 ถึง 11 สัปดาห์
- การรับวัคซีนครั้งที่สาม: อายุ 12 ถึง 15 สัปดาห์
- การรับวัคซีนครั้งที่สี่: อายุ 16 ถึง 20 สัปดาห์
- การรับวัคซีนเพิ่มภูมิคุ้มกัน: อายุครบ 12 เดือนหลังจากที่รับวัคซีนสำหรับลูกสุนัข
- วัคซีนพิษสุนัขบ้า: ควรฉีดให้สุนัขที่มีอายุระหว่าง 3-6 เดือนตามด้วยวัคซีนเพิ่มภูมิคุ้มกันเมื่อสุนัขมีอายุครบ 12 เดือนไปแล้ว สัตวแพทย์ของคุณจะแนะนำให้ฉีดอีกเข็มเมื่อครบ 3 ปีนับจากวันที่รับวัคซีนเข็มแรก
- วัคซีนไอกรน พาราอินฟลูเอนซาและไข้หวัดใหญ่สุนัข: สุนัขชอบอยู่ข้างนอกต้องฉีดวัคซีนเหล่านี้เพื่อป้องกันโรคที่อาจติดต่อจากภายนอก
- วัคซีนฉี่หนู: วัคซีนชนิดนี้จะฉีดเมื่อสัตวแพทย์ของคุณกำหนดให้ฉีดให้สุนัข
วัคซีนหลักและวัคซีนทางเลือกคืออะไร
ความแตกต่างระหว่างวัคซีนหลักและวัคซีนทางเลือก คือ วัคซีนหลัก คือ วัคซีนเสริมภูมิคุ้มกันที่กฎหมายกำหนดให้สุนัขต้องรับการฉีด ซึ่งหมายความว่า สัตว์เลี้ยงทุกตัวโดยเฉพาะสุนัขต้องรับการฉีดวัคซีนตัว โดยวัคซีนหลัก ประกอบด้วย วัคซีนพิษสุนัขบ้าที่จะช่วยป้องกันสุนัขจากการติดเชื้อไวรัสร้ายแรงที่อาจติดต่อสู่สัตว์หรือมนุษย์ได้ สำหรับวัคซีนทางเลือก คือ วัคซีนที่กฎหมายไม่ได้บังคับแต่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับสัตว์เลี้ยง หากสุนัของคุณออกไปข้างนอกหรือพื้นที่ที่มีสุนัขตัวอื่น วัคซีนทางเลือกเป็นสิ่งที่สำคัญมาก โดยจะช่วยป้องกันไวรัสและโรคต่างๆ อาทิ โรคฉี่หนู โรคไอกรน โรคไลม์และไข้หวัดใหญ่ นอกจากนี้ วัคซีนทางเลือกอย่าง เซรุ่มหางกระดิ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นเช่นกันในการช่วยลดความรุนแรงจากพิษงูหางกระดิ่งเมื่อสุนัขถูกกัด ซึ่งพบวัคซีนชนิดนี้ได้ทั่วไปในโลกตะวันตก
มีปัจจัยอะไรบ้างที่บ่งบอกว่าลูกสุนัขต้องได้รับวัคซีน
ก่อนพาเพื่อนรักสี่ขาของคุณไปฉีดวัคซีน มีสิ่งที่คุณพิจารณาสองสามข้อ ตามที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นว่าการสอบถามข้อมูลทางการแพทย์จากแหล่งที่คุณได้ลูกสุนัขมาเป็นสิ่งที่สำคัญ นอกจากนี้ คุณควรทราบอายุของลูกสุนัข มีลูกสุนัขอื่นๆอีกกี่ตัวในสถานบริบาลสุนัขแรกเกิด ข้อมูลการฉีดวัคซีนของแม่สุนัข วัคซีนที่ฉีดให้ลูกสุนัขแล้ว สายพันธุ์ลูกสุนัขและปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อย เมื่อคุณทราบข้อมูลเหล่านี้แล้ว คุณจะสามารถเตรียมความพร้อมและทราบว่าควรพาลูกสุนัขไปฉีดวัคซีนอะไรบ้าง ยิ่งไปกว่านั้น คุณยังสามารถแจ้งข้อมูลดังกล่าวนี้แก่สัตวแพทย์เพื่อพิจารณาว่าควรฉีดวัคซีนเสริมตัวไหนให้แก่ลูกสุนัข
ภาระหน้าที่นี้อาจเป็นสิ่งที่น่าเบื่อหน่ายและยากลำบากโดยเฉพาะหากคุณเลี้ยงสัตว์เป็นครั้งแรก อย่างไรก็ตาม หากคุณอยากเป็นเจ้าของที่มีความรับผิดชอบ ควรตระหนักไว้เสมอว่าลูกสุนัขเป็นสัตว์ที่อ่อนแอมาก คุณต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ นอกจากนี้ คุณต้องใส่ใจในอาหารและน้ำดื่มที่ให้แก่ลูกสุนัขรวมทั้งมอบความรัก ความเมตตาให้แก่มัน เหนือสิ่งอื่นใดคือพาไปฉีดวัคซีนทั้งวัคซีนหลักและวัคซีนทางเลือก ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้พาลูกสุนัขไปพบสัตวแพทย์เพื่อสอบถามเกี่ยวกับวัคซีนและทำการนัดหมายการล่วงหน้า
